Welcome all to teacher Aumm's web blog..You can enjoy learning more interesting English here. Just open your mind!
...ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เว็บบล็อกเพื่อการเรียนการสอนของคุณครูโรงเรียนถาวรานุกูล จังหวัดสมุทรสงคราม...

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

น่าเสียดาย ข้อคิดดีๆ จากท่าน ว. วชิรเมธี


น่าเสียดาย (ธรรมจักร)

น่าเสียดาย ที่เรามีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ

แต่เรากลับศรัทธาไสยศาสตร์หัวปักหัวปำ

น่าเสียดายที่เรามีพระมหากษัตริย์ที่แสนดี
แต่เรากลับมีคนโกงกินเต็มบ้านเต็มเมือง

น่าเสียดายที่เรามีวัดอยู่เกือบทุกหมู่บ้าน/ตำบล
แต่เรากลับมากด้วยคนขาดจริยธรรมอยู่ทั่วไป

น่าเสียดาย ที่เราสถาปนาประชาธิปไตยตั้งแต่ พ.ศ. 2475
แต่เรากลับมีปฏิวัติ/รัฐประหารมาแล้ว14 ครั้ง

น่าเสียดายที่เรามีมหาวิทยาลัยมากมายติดอันดับโลก
แต่เรากลับโชคร้ายที่คนไทยชอบดูดวงบวงสรวงเทพยดา

น่าเสียดายที่เรามีป่าไม้-แม่น้ำ-ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์
แต่เรากลับเทิดทูนการทำลายแทนการรักษา


น่าเสียดาย ที่เรามีศิลปวัฒนธรรมเป็นของตนเอง
แต่เรากลับเก่ง "การลอกเลียนแบบ" เป็นที่สุด

น่าเสียดายที่เรามีสื่อมวลชนมากมายไร้พรมแดน
แต่เจ็บปวดเหลือแสนเมื่อสื่อมวลชนมุ่งแต่การขายสินค้า

น่าเสียดาย ที่เรามีกฎหมาย
แต่เรากลับปล่อยให้มีการใช้กฎหมู่จนเป็นเรื่องธรรมดา

น่าเสียดาย ที่เรามีหนังสือมากมายหลายพันเล่มในห้องสมุด
แต่สถิติสูงสุดคือเราอ่านหนังสือกันปีละ8 บรรทัด

น่าเสียดายที่เรามีอินเทอร์เน็ตใช้ก่อนประเทศในโลกที่สาม
แต่เรากลับเสื่อมทรามเพราะใช้ส่งภาพถ่ายคลิปโป๊

น่าเสียดายที่เรามีโทรทัศน์หลายสิบช่อง
แต่เรากลับจ้องจะดูแต่ละครน้ำเน่า

น่าเสียดาย ที่เรามีพ่อแม่อยู่ในบ้าน
แต่เรากลับปล่อยให้ท่านอยู่อย่างเปลี่ยวเหงา

น่าเสียดายที่เราสามารถกลับตัวเป็นคนดีได้
แต่เรากลับชอบใจที่จะเป็นคนเลวตลอดกาล


น่าเสียดายที่เราเป็นอิสระจากความอยากได้
แต่เรากลับพึงใจอยู่กับการสนองความอยาก

น่าเสียดาย ที่เราบรรลุนิพพานได้ในชาตินี้
แต่เรากลับยินดีอยู่แค่การทำบุญให้ทาน

เรื่องน่ารู้ของไทย

เรื่องน่ารู้ของไทย

ในสมัยเด็กๆ หลายคนอาจจะต้องท่องจำว่า ใครคือนายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่ออะไร ใครเป็นผู้แต่งเพลงสรรเสริญพระบารมี ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ แม้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หลายคนก็ยังจำได้อยู่ แต่หลายคนก็อาจจะลืมเลือน ดังนั้น เพื่อเป็นการทบทวนความจำ ทั้งความรู้เก่าและเกร็ดความรู้ใหม่ ที่บางคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับประเทศไทย กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอนำสาระบางส่วนจากหนังสือ “ความรู้รอบตัว รอบรู้เรื่องเมืองไทย” ของฝ่ายวิชาการชมรมเด็ก ซึ่งจัดพิมพ์โดยสุวีริยาสาส์น มาเพื่อเสนอดังต่อไปนี้



แบบเรียนเล่มแรกของไทย
แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ “จินดามณี” แต่งโดย พระมหาราชครู กวีในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ปี พ.ศ. 2199 - 2231)





ถนนสายแรกในเมืองไทย
ถนนสายแรกในเมืองไทย คือ ถนนเจริญกรุง (New Road) สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อ พ.ศ. 2404 โดยต่อมาได้มีการตัดถนนบำรุงเมือง ถนนเฟื่องนคร รวมทั้งถนนพระราม 4 และถนนสีลมในเขตชานพระนคร




น้ำแข็งเข้ามาเมืองไทยครั้งแรก
น้ำแข็งเข้ามาเมืองไทยครั้งแรก ในสมัยรัชกาลที่ 4 ประมาณ พ.ศ. 2410 สันนิษฐานว่า ผลิตที่สิงคโปร์แล้วส่งมาถวาย โดยใส่หีบกลบขี้เลื่อย คนเฒ่าคนแก่ในสมัยนั้น ไม่เชื่อว่าจะทำน้ำแข็งได้จริง ถึงกับออกปากว่า “จะปั้นน้ำเป็นตัวได้อย่างไร”


พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่เสด็จประพาสต่างประเทศ
พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรก ที่เสด็จประพาสต่างประเทศคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยเสด็จประพาสสิงคโปร์เป็นแห่งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2413 และเสด็จชวาด้วย






ผู้ที่ประพันธ์เพลงสรรเสริญพระบารมี
ผู้ที่ประพันธ์เพลงสรรเสริญพระบารมี คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ โดยมีนายปโยตร์ ซูโรฟสกี้ (Pyotr Shchurovsky) ชาวรัสเซีย แต่งทำนองเพลงขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2431



ธนบัตรหรือเงินกระดาษของไทย
ธนบัตรหรือเงินกระดาษของไทย ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ผลิตขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 พิมพ์ออกใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2445 โดยก่อนหน้านั้น ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้มีการผลิตธนบัตร หรือเงินกระดาษออกใช้เป็นครั้งแรก ในเมืองไทยแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2396 แต่เรียกว่า “หมาย” ทำด้วยกระดาษปอนด์สีขาวรูปสี่เหลี่ยม พิมพ์ลวดลายด้วยหมึกทั้งสองด้าน และประทับตรา พระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน ตราจักร และพระราชลัญจกรประจำรัชกาลสีแดงชาด (ลัญจกร อ่านว่า ลัน-จะ-กอน แปลว่า ตราสำหรับใช้ตีหรือประทับ ราชาศัพท์ใช้คำว่า พระราชลัญจกร)



ผู้ที่คิดออกลอตเตอรี่เป็นคนแรกในเมืองไทย
ผู้ที่คิดออกลอตเตอรี่เป็นคนแรกในเมืองไทย คือ มิสเตอร์เฮนรี่ อาลบาสเตอร์ (ต้นตระกูล “เศวตศิลา”) ชนชาติอังกฤษ เป็นผู้นำลักษณะการออกรางวัลสลากแบบยุโรปมาเผยแพร่เป็นคนแรก โดยเรียกว่า “ลอตเตอรี่” โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้กรมทหารมหาดเล็กออกลอตเตอรี่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๗ เนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา





คนไทยคนแรกที่ได้ขึ้นเครื่องบิน
คนไทยคนแรกที่ได้ขึ้นเครื่องบิน คือ พระบรมวงศ์เธอ กรมพระยากำแพงเพ็ชรอัครโยธิน โดยประทับเครื่องบินออร์วิลไรท์ คู่กับกัปตัน มร.เวนเดนเปอร์น ซึ่งขับวนเวียนเหนือสนามราชกรีฑาสโมสร เป็นเวลา 3 นาที 45 วินาที เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2453 เป็นเครื่องบินที่บริษัทฝรั่งเศสนำมาแสดง ณ ราชกรีฑาสโมสร(สนามม้านางเลิ้ง) ซึ่งถือว่าเป็นสนามบินแห่งแรก ที่ใช้ในการบินของเมืองไทยด้วย



พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรก ที่ทรงผ่านการศึกษาจากต่างประเทศ
พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรก ที่ทรงผ่านการศึกษาจากต่างประเทศคือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จไปศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เมื่อครั้งทรงยังดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เมื่อปี พ.ศ. 2436 - 2445 รวมระยะเวลา 9 ปี



นามสกุลหมายเลข 1 ที่รัชกาลที่ 6 ทรงคิดพระราชทาน
นามสกุลหมายเลข 1 ที่รัชกาลที่ 6 ทรงคิดพระราชทาน คือ นามสกุล “สุขุม” พระราชทานเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2456 ต้นสกุลคือ เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)


ผู้ที่ให้กำเนิดรถแท็กซี่ขึ้นในประเทศไทยครั้งแรก
ผู้ที่ให้กำเนิดรถแท็กซี่ขึ้นในประเทศไทยครั้งแรก คือ พลโท พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เป็นรถยนต์นั่ง (รถเก๋ง) ยี่ห้อออสติน จำนวน 4 คัน เปิดบริการรับจ้างครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2466 ในสมัยรัชกาลที่ 6 ในสมัยนั้นเรียกว่า “รถไมล์”



ประเทศไทยเริ่มนับเวลา ตามแบบสากลครั้งแรก
ประเทศไทยเริ่มนับเวลา ตามแบบสากลครั้งแรกในสมัย รัชกาลที่ 6 โดยแต่เดิมเรานับเวลาตอนกลางวันเป็น “โมง” และตอนกลางคืนเป็น “ทุ่ม” พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงให้เปลี่ยนมาเรียกว่า “นาฬิกา” (เขียนย่อว่า “น.”) และให้นับเวลาทางราชการใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับธรรมเนียมสากลนิยม โดยให้ถือว่าเวลาหลังเที่ยงคืนเป็นเวลาเปลี่ยนวันใหม่ และให้ถือเวลาที่ตำบลกรีนิช ประเทศอังกฤษเป็นมาตรฐาน ซึ่งเวลาในประเทศไทย เป็นเวลาก่อนหรือเร็วกว่าเวลาที่กรีนิช 7 ชม. เช่น ไทยเป็นเวลา 19.00 น. ทางกรีนิชเท่ากับ 12.00 น. เป็นต้น



ผู้ที่ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยเครื่องแรก
ผู้ที่ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยเครื่องแรก คือ มิสเตอร์เอ็ดวิน แมกพาแลนด์ ยี่ห้อเรมิงตัน




นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทย คือ พระยามโนปกรณนิติธาดา (ก้อน หุตะสิงห์) เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2475 - 20 มิถุนายน พ.ศ.2476 ส่วนนายกรัฐมนตรีคนแรก ที่ถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งคือ นายควง อภัยวงศ์ หลังจากที่เข้าดำรงตำแหน่งได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2491 ได้ถูกคณะนายทหารเข้าพบ เพื่อขอร้องแกมบังคับ ให้ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้เพื่อเปิดทางให้กับจอมพลป. พิบูลสงคราม กลับเข้าเป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่ 3


ยศสูงสุดของทหารไทย
ยศสูงสุดของทหารไทย คือ ยศจอมพล แต่ปัจจุบันไม่มีการแต่งตั้งแล้ว ยศสูงสุดทางทหารในปัจจุบันคือ “พลเอก” ผู้ที่เป็นจอมพลคนแรกของไทยคือ จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภานุพันธุวงศ์วรเดช ทรงเป็นต้นสกุล “ภาณุพันธุ์” ส่วนจอมพลคนแรกในระบอบประชาธิปไตย คือ จอมพลป. พิบูลสงคราม และคนสุดท้าย ที่ดำรงตำแหน่งจอมพลในระบอบประชาธิปไตยคือ จอมพลประภาส จารุเสถียร เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2516 (สำหรับพระมหากษัตริย์ จะทรงดำรงตำแหน่ง “จอมทัพไทย”)



ผู้ประพันธ์เพลงชาติไทยในปัจจุบัน
ผู้ประพันธ์เพลงชาติไทยในปัจจุบัน คือ พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยากร) เป็นผู้แต่งทำนอง และหลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์) เป็นผู้แต่งเนื้อร้อง เมื่อ พ.ศ. 2483



ผู้ที่คิดฝนเทียม หรือ ฝนหลวง ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย
ผู้ที่คิดฝนเทียม หรือ ฝนหลวง ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช โดยได้ทรงค้นคิดและวิจัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 และทรงถ่ายทอดแนวพระราชดำริ และผลการวิจัยแก่ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล วิศวกรผู้เชี่ยวชาญทางการเกษตร จนมีการทำฝนหลวงพระราชทานครั้งแรก ในปีพ.ศ. 2512



มกุฎราชกุมารพระองค์แรก ที่ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก
มกุฎราชกุมารพระองค์แรก ที่ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก คือ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร



สมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์แรก ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย
สมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์แรก ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยทรงจบอักษรศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปี พ.ศ. 2519


คนไทยคนแรก ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสมัชชาใหญ่ แห่งสหประชาชาติ
คนไทยคนแรก ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสมัชชาใหญ่ แห่งสหประชาชาติ คือ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2499



ผู้นำไทยคนแรก ที่ได้รับรางวัลแมกไซไซ
ผู้นำไทยคนแรก ที่ได้รับรางวัลแมกไซไซ คือนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 18 ของไทย ได้รับในสาขางานบริการภาครัฐบาล ประจำปี พ.ศ. 2540



ทั้งหมดนี้ คือส่วนหนึ่งในหนังสือดังกล่าว ซึ่งหวังว่าจะทำให้ผู้อ่าน และผู้สนใจได้รับความรู้เพิ่มขึ้น เรียบเรียงจากหนังสือ ความรู้รอบตัว รอบรู้เรื่องเมืองไทย โดย ฝ่ายวิชาการชมรมเด็ก โทร.02-871-7542
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

- อมรรัตน์ เทพกำปนาท กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
- สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ (อสมท.)

ความจำสั้นก็เก่งภาษาอังกฤษได้

เฮ้อ...ทำไม ภาษาอังกฤษยากจัง ขนาดนี่เป็นภาษาต่างประเทศที่เราได้มีโอกาสเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กนะนี่ ยังยากขนาดนี้เลย ดังนั้น ไม่ต้องไปพูดถึงภาษาอื่นๆเลย คงได้นอนชักแหงๆ เมื่อต้องเรียนภาษาเหล่านั้น ...นี่เป็นหนึ่งในความคิดที่เชื่อว่าทุกคน คงจะคิดแบบนี้อยู่เป็นแน่
เมื่อต้องเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ที่ไม่ใช่ภาษาบ้านเกิดเมืองนอกของเรา...
ความจริงแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเนอะ ขนาดภาษาไทยพวกเราบางคนยังไม่อยากเรียน และใช้กันผิดๆ เลย จริงไหม??? สรุปได้ว่า คนไทยส่วนใหญ่นั้น มักไม่ค่อยชอบเรียนรู้เกี่ยวกับภาษา
แต่หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว คงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วละ เมื่อมีนักวิจัยออกมาระบุอย่างชัดเจนแล้วว่า การเรียนรู้ภาษา มีผลต่อความจำของคนเรา ซึ่งกลุ่มนักวิจัยดังกล่าว ระบุว่า ผู้ที่เคยเก่งภาษา เมื่อตอนต้นของชีวิตช่วงอายุ 20 ปีต้นๆ จะไม่ค่อยมีปัญหาความจำ แม้ว่าสมองจะมีร่องรอยความเสื่อมของสมองตามอายุขัย…

โดย นักวิจัยมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์พบวี่แววว่า ผู้ที่เก่งในการใช้ภาษาเมื่อตอนหนุ่มสาว จะไม่ค่อยเป็นโรคสมองเสื่อม ตอนแก่เฒ่าเหมือนคนอื่น ซึ่งพวกเขาได้เบาะแสจากการศึกษาสมองของนางชี ในนิกายคาทอลิก เมื่อเสียชีวิตลงแล้ว จำนวน 38 ราย พร้อมกับตรวจเรียงความซึ่งพวกนางชีเคยแต่งเอาไว้ เมื่อสมัยที่อยู่ในวัย 20 ปีต้นๆ ได้พบว่า ผู้ที่เคยเก่งภาษาเมื่อตอนต้นของชีวิต จะไม่ค่อยมีปัญหาความจำ แม้ว่าสมองจะมีร่องรอยความเสื่อมของสมอง ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังมีความสงสัยในโรคสมองเสื่อมอยู่ เพราะเจอว่าแม้สมองของบางคน จะมีร่องรอยความเสื่อมของสมองตามอายุขัย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นโรคสมองเสื่อมกันหมดทุกคน ดร.ฮวน ทอรโคซัว หัวหน้านักวิจัย ได้กล่าวโดยสรุปว่า "ผลการศึกษาแสดงว่า การทดสอบความเก่งในการใช้ภาษา เมื่อสมัยตอนต้นๆ ของชีวิต อาจจะใช้ทำนายให้รู้ว่า โอกาสที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมของผู้นั้น เมื่อตอนอีก 50-60 ปีภายหลังได้”

โอ้ววว...รู้แบบนี้แล้วจะมัวรอช้าอยู่ทำไมเนอะ เรามาเรียนรู้ภาษากันดีกว่า อย่างน้อยๆ เริ่มจากภาษาไทย ภาษาบ้านเกิดของเรานี่แหล่ะ เอาให้ชัวร์ปึ้กกันไปเลย เราจะได้ไม่ตกอยู่ในอาการที่ว่า ความจำสั้น...แต่รักฉันยาวไง ฮ่าๆ